DRT ลุ้นผลงานไตรมาส 2/62 ทำสถิติเติบโตสูงสุดในรอบ 5 ปี

>>

Hightlight

  • ‘บมจ.ผลิตภัณฑ์ตราเพชร หรือ DRT’ ลุ้นทำสถิติเติบโตดีที่สุดในรอบ 5 ปี
  • มั่นใจรักษาอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในเกณฑ์เป้าหมายที่ 25-27% 
  • ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/62 คาดว่าจะรักษาอัตราการเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง จากไตรมาสแรกปีนี้ที่ทำรายได้รวม 1,394.73 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 211.93 ล้านบาท

 

นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์ แผ่นบอร์ด ยิปซัม อิฐมวลเบาและบริการหลังการขายภายใต้แบรนด์ ‘ตราเพชร’ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/62 คาดว่าจะรักษาอัตราการเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง จากไตรมาสแรกปีนี้ที่ทำรายได้รวม 1,394.73 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 211.93 ล้านบาท หลังจากเร่งผลักดันสินค้าเข้าสู่ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้น เพื่อรองรับโอกาสในการขาย หลังจากใช้ช่วงเวลาวันหยุดยาวในเดือนเมษายนที่ผ่านมา เร่งผลิตสินค้าเพิ่มปริมาณสต๊อกสินค้าและจัดส่งสินค้าแก่ลูกค้าผ่านทุกช่องทาง 

 

นอกจากนี้การทำการตลาดภายใต้แนวคิด ‘สวยครบเซต ตราเพชรทั้งหลัง’ ผ่านสื่อสารการตลาดที่มีการสื่อสารภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ ตอกย้ำจุดเด่นด้านความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ ‘ตราเพชร’ ที่สามารถนำไปใช้ก่อสร้างบ้านได้ทั้งหลัง สื่อสารไปยังกลุ่มผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี ประกอบกับการทำกิจกรรมทางการตลาด ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าเป็นอย่างมาก โดยพบว่าช่องทางการจำหน่ายสินค้ากลุ่มลูกค้าโครงการและตลาดส่งออก มีสัญญาณการขยายตัวได้อย่างโดดเด่นมาก

 

“เรายังคงรักษาอัตราการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยเท่าที่ประเมินการดำเนินงานไตรมาส 2/62 เบื้องต้นมีสัญญาณที่ดีมาก มีโอกาสจะเห็นการเติบโตเป็นเลข 2 หลัก แต่เรายังคงต้องรอดูสถานการณ์เดือนมิถุนายนนี้ก่อนว่าเป็นอย่างไร ซึ่งหากเราทำได้ตามที่คาดการณ์ไว้ ก็จะทำให้ผลงานในไตรมาสนี้มีอัตราการเติบโตสูงที่สุดในรอบ 5 ปี” นายสาธิตกล่าว

 

ส่วนการบริหารจัดการด้านต้นทุนการผลิต ยังสามารถควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยพบว่าต้นทุนวัตถุดิบบางรายการปรับลดลง ประกอบกับอัตราเดินเครื่องจักรเพื่อผลิตสินค้ายังอยู่ในเกณฑ์เฉลี่ยสูงถึง 90% ทำให้ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยอยู่ในระดับต่ำและช่วยสนับสนุนให้ DRT รักษาอัตราการทำกำไรขั้นต้นเฉลี่ยอยู่ที่ 25-27% ได้ตามแผนงานและจะเข้ามาสนับสนุนผลการดำเนินงานที่ดี แม้ว่าใน
ไตรมาสนี้จะต้องมีรายการบันทึกค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น จากการตั้งสำรองเงินชดเชยพนักงานเกษียณอายุตามกฎหมายแรงงานใหม่ก็ตาม